บทสรุปของโพสต์โดย durumis AI
- ในยุค AI เราจำเป็นต้องพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคุณค่าของการถาม-ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ผ่านตัวอย่างของ Quora และความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น
- ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน ส่งผลต่อรูปแบบการจดจำของเรา แม้จะมีพื้นที่เก็บข้อมูลความทรงจำที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่เราก็อาจเผชิญกับความยากลำบากในการจัดการความทรงจำได้
- ก่อนที่จะคิดว่าเทคโนโลยีใหม่จะพัฒนาโครงสร้างการจดจำที่มีอยู่เดิมอย่างไร เราควรตั้งคำถามที่มุ่งเน้นที่มนุษย์ก่อนว่า ‘เราจะจดจำอะไรและอย่างไร’
จากบทความล่าสุดของ Slate ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ออนไลน์เกี่ยวกับเว็บไซต์ ระบุว่า Quora ซึ่งเคยเป็นเหมือนเว็บไซต์ถามตอบชั้นนำระดับโลก กำลังเผชิญกับวิกฤต ในอดีต Quora มีผู้เข้าชมรายเดือนสูงถึง 190 ล้านคน และดึงดูดบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา และนักแสดงแอชตัน คุทเชอร์ มาร่วมตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาและละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับคุณค่าของคำถามที่ดี และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้ ทำให้ฐานผู้ใช้มีความภักดีต่อแพลตฟอร์ม แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยการถือกำเนิดของ AI ทำให้ผู้ใช้หลักๆ หลายคนเริ่มทยอยออกจากแพลตฟอร์ม
Quora มีนโยบายให้ผู้ใช้ระบุชื่อจริงในการสร้างโปรไฟล์ ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มมีโครงสร้างคุณค่าที่ชัดเจน โดยเป็นที่ที่ผู้คนถามคำถาม และผู้เชี่ยวชาญให้คำตอบที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม เมื่อ Quora เริ่มนำเงินลงทุนไปใช้กับแพลตฟอร์มแชทบอท AI และปรับเปลี่ยนข้อกำหนดในการให้บริการอย่างไม่สมเหตุสมผล เพื่อให้สามารถนำคำตอบของผู้ใช้ไปใช้ฝึกฝนแบบจำลอง AI ทำให้เกิดความรู้สึกว่า Quora กำลังพยายามแทนที่แก่นแท้ของชุมชนจากมนุษย์ไปสู่ AI ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้เริ่มมอง Quora ในแง่ลบ และมีการคาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ Quora อาจกลายเป็นเมืองร้างที่มีเพียง AI แชทบอทเท่านั้นที่ยังคงใช้งานอยู่
การพยายามปรับเปลี่ยนกระบวนการทั้งหมดของการตั้งคำถามและการให้คำตอบที่ถูกต้องในชุมชนดิจิทัลโดยใช้ AI อาจดูเหมือนเป็นแนวคิดที่ดีในแง่มุมหนึ่ง ปัจจุบันเราใช้ ChatGPT ในการแปลภาษา เขียนโค้ด เขียนบทความ และงานอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเรามีความเชื่อมั่นในคำตอบของ AI อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องตระหนักว่าระหว่างโครงสร้างคุณค่าของการถามและตอบระหว่างคนกับคน และโครงสร้างคุณค่าใหม่ของการถามและตอบระหว่างคนกับ AI นั้น มีความแตกต่างที่ทำให้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวแม้จะยากที่จะอธิบายได้ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงใน Quora ลบประวัติของตนเองและออกจากเว็บไซต์ก็อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดังนั้นเราจึงควรตั้งคำถามเกี่ยวกับความแตกต่างที่ละเอียดอ่อนนี้
ชาลี สตรอง นักสังคมวิทยาชาวเดนมาร์ก ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับ ‘สมาร์ทโฟนและอนาคตของความทรงจำ’ โดยเน้นย้ำว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่เราใช้และเป็นเจ้าของ แต่ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เราได้ทบทวนว่าเราคือใครและมีความสามารถอะไรบ้าง เขาเริ่มต้นการวิจัยโดยยึดหลักทฤษฎี ‘จิตใจที่ขยายออกไป’ ของแอนน์ คลาร์ก และเดวิด ชาลเมอร์ส ซึ่งมองว่าสมาร์ทโฟนกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการประเมินความสามารถในการจดจำของมนุษย์ ไม่ใช่แค่เพียงการพิจารณาสมองเพียงอย่างเดียว
โดยพื้นฐานแล้ว การเขียนเป็นทักษะที่ช่วยเปลี่ยนแปลงหรือเสริมสร้างความทรงจำทางชีวภาพของเรา และปัจจุบันด้วยสมาร์ทโฟน เราสามารถเพิ่มรูปภาพ เสียงบันทึกดิจิทัล และวิดีโอลงในกระบวนการเขียนได้ ซึ่งหมายความว่าเรามีระบบความรู้และความทรงจำที่แตกต่างจากการใช้สมองหรือความสามารถทางชีวภาพของเราอย่างสิ้นเชิง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รายการเรียลลิตี้โชว์ ‘환승연애’ (Hwanseungyeonae) หรือ ‘รักครั้งใหม่’ ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีการนำเสนอพื้นที่ชื่อ X-Room ซึ่งเต็มไปด้วยองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำของคู่รักที่เลิกรากันไปแล้ว และภายใน X-Room นั้น จะมีทั้งของใช้คู่รัก จดหมาย และคลิปวิดีโอที่บันทึกช่วงเวลาต่างๆ เช่น การท่องเที่ยว วันเกิด การเดท รวมถึงภาพแคปเจอร์จากหน้าจอแชทของ KakaoTalk
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการนำสมาร์ทโฟนมาใช้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราสามารถบันทึกและเรียกดูความทรงจำได้อย่างไม่จำกัดผ่านสื่อต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา และระบบความทรงจำที่เชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟนนี้ กำลังจำกัดความสามารถในการจดจำในรูปแบบดั้งเดิม และสร้างความเป็นไปได้ในการจดจำในรูปแบบอื่นๆ เช่น คลาวด์หรือ Instagram ซึ่งนำไปสู่ความสับสนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมได้พบเจอกับผู้เข้าร่วมการวิจัยหลายคนที่มีสมาร์ทโฟนที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า 100 GB แต่ก็ยังประสบปัญหาพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอเนื่องจากไม่ค่อยได้จัดการรูปภาพในเครื่อง
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ชอบจัดการข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันมากกว่าเว็บไซต์ ส่งผลให้ข้อมูลความทรงจำกระจัดกระจาย และยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งทำให้การจัดการข้อมูลยากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยความสามารถในการถ่ายภาพ บันทึกหน้าจอ และบันทึกข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในทุกๆ ช่วงเวลา ทำให้เราสามารถบันทึกประสบการณ์ต่างๆ ได้มากมาย แต่การบันทึกอย่างต่อเนื่องนี้อาจทำให้ความทรงจำซับซ้อนและยากที่จะเข้าใจมากขึ้น กล่าวคือ ดังที่เห็นได้จากตัวอย่างการวิจัยเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนและความทรงจำ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอาจไม่ใช่แค่การขยายขีดความสามารถทางด้านฟังก์ชันการทำงานเท่านั้น แต่ยังอาจสร้างปัญหาใหม่ๆ ที่ซับซ้อนและฝังรากลึกในชีวิตประจำวันของเราที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงเรื่องนี้
ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แทนที่จะตั้งคำถามที่มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยีใหม่จะพัฒนาการบันทึกและความทรงจำในอดีตอย่างไร เราอาจลองตั้งคำถามที่มุ่งเน้นไปที่มนุษย์ ซึ่งดูคลุมเครือและมีความเป็นปรัชญาบ้าง เช่น ‘เราจะบันทึกและจดจำอะไรอย่างไร’ นี่อาจเป็นคำถามที่ Quora ควรตั้งถามตัวเองในขณะที่วางแผนที่จะลงทุนและนำ AI มาใช้ในแพลตฟอร์ม เพื่อรักษาคุณค่าของคำถามที่ดีที่เคยทำให้แพลตฟอร์มนี้ครองใจผู้คนทั่วโลก