หัวข้อ
- #การเจรจาต่อรอง
- #ร้านแฟรนไชส์
- #การเริ่มต้นธุรกิจ
สร้าง: 2024-05-22
สร้าง: 2024-05-22 13:08
คุณแม่ที่อยากทำธุรกิจนั้น เริ่มตัดสินใจลงตัวไปทางการลงทุนร้านขายเครื่องในเกือบจะแน่แล้ว
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ฉันได้ให้ความเห็นกับคำถามของคุณแม่ไว้ดังนี้
ข้อความที่ฉันพยายามจะสื่อสารให้คุณแม่เข้าใจตลอดมามีเพียงข้อความเดียว
ทัศนคติของผู้ประกอบการที่ต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนของชีวิตด้วยตัวเอง
คุณแม่ต้องเข้าใจจุดนี้เสียก่อน จึงจะสามารถประเมินขอบเขตของโอกาสและข้อจำกัดได้อย่างแท้จริง จากนั้นจึงจะมองเห็นภาพรวมว่าจะสามารถก้าวไปได้ไกลแค่ไหนอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อเริ่มต้นแล้ว ร้านที่คุณแม่ลงทุนไปนั้น จะผูกติดอยู่กับจิตวิญญาณของคุณแม่ไปจนกว่าร้านจะปิดตัวลง คุณแม่จะต้องรู้สึกว่าตัวเองนั้นผูกพันกับสถานที่นั้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะนอนหลับหรือตื่นอยู่ก็ตาม ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มต้นการดำเนินงานร้านค้าที่มีตารางเวลาการทำงานที่กำหนดตายตัว ฉันจึงอยากให้คุณแม่สร้างโอกาสในการพัฒนาตัวเองให้มากที่สุด
เพราะเหตุนี้ ในช่วงนี้คุณแม่จึงบอกว่าเวลาที่ทางบริษัทแฟรนไชส์ถามว่ามีลูกหลานคนไหนจะมาช่วยดูแลร้านหรือไม่ คุณแม่ก็ตอบไปว่า ‘ไม่มี’
ต่อไปนี้คือช่วงเวลาสำคัญๆ ที่ฉันได้พูดคุยกับคุณแม่และพบว่าเป็นสิ่งที่ผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจควรไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งและนำไปปฏิบัติจริง
ก. คุณแม่บอกว่าได้นัดพบกับเจ้าของแฟรนไชส์ร้านเครื่องในที่มีสาขากว่า 70 สาขาและพ่อของเขา
แน่นอนว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการตรวจสอบสถานที่และพื้นที่โดยรอบร้านค้าที่คุณแม่ได้ดูไว้ก่อนหน้านี้ และพูดคุยกันถึงความเหมาะสมตามมาตรฐานของธุรกิจแฟรนไชส์ สำหรับคุณแม่แล้ว การประชุมครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะต้องดูว่าค่าใช้จ่ายเริ่มต้นทั้งหมดอยู่ที่เท่าไหร่ แต่จากมุมมองของฉันแล้ว ทั้งสองคนนี้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำสัญญาหรือไม่ แต่ก็เป็นบุคคลที่หาพบได้ยากในวงการร้านอาหาร
คุณพ่อท่านหนึ่งที่เริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ภายในตลาดในอินชอน ได้ดูแลร้านขายเครื่องในจนกลายเป็นร้านอาหารชื่อดังมาเป็นเวลา 40 ปี แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป ตำแหน่งที่ตั้งร้าน และดวงของเจ้าของร้านจะแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับคนที่สามารถพัฒนาร้านค้าของตัวเองได้ขนาดนี้ ย่อมมีสิ่งที่เราควรเรียนรู้จากเขาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เจ้าของแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแฟรนไชส์ และได้พบปะกับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจจำนวนมาก ได้เห็นทั้งความล้มเหลว การดำรงอยู่ และความสำเร็จของพวกเขามาแล้ว ก็ย่อมมีเรื่องราวมากมายที่จะเล่าให้ฟังในแง่มุมการบริหารจัดการระบบขององค์กร
แน่นอนว่า ทั้งสองคนนี้ก็เหมือนกับคุณแม่ที่อาจจะแค่มาตรวจสอบเรื่องการทำสัญญาเท่านั้น แต่ไม่ว่าอย่างไร การได้พบปะพูดคุยกับทั้งสองคนก็ยังคงเป็นโอกาสให้คุณแม่ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ นอกเหนือจากประเด็นหลักที่ต้องพูดคุยอยู่แล้ว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันจึงได้รีบรวบรวมคำถาม 3 ข้อหลักๆ ส่งให้คุณแม่ดู
คำตอบของคำถามเหล่านี้ ไม่ว่าคุณแม่จะเลือกเริ่มต้นกับแบรนด์นี้หรือไม่ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างเงื่อนไขและความสามารถในการแข่งขันของร้านค้าส่วนบุคคล รวมถึงการพัฒนาไปสู่การบริหารจัดการในเชิงธุรกิจ การดูแลลูกค้า และการโปรโมต ดังนั้น แม้ว่าอีกฝ่ายจะให้ความสำคัญกับการตัดสินใจเรื่องการทำสัญญาเป็นหลัก แต่ก็ยังสามารถเลือกที่จะเตรียมคำถามที่เหมาะสมไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะได้รับข้อมูลที่ต้องการอย่างเต็มที่
ข. คุณแม่กำลังลังเลใจกับข้อเสนอสุดท้ายของบริษัทแฟรนไชส์ที่ยอมลดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้านเริ่มต้นจาก 65 ล้านวอนลงมาเล็กน้อย
คุณแม่บอกว่าทางบริษัทแฟรนไชส์ได้ตอบตกลงที่จะลดค่าใช้จ่ายบางส่วนในการตกแต่งร้านในระหว่างการประชุม ฉันจึงได้ให้ความคิดเห็นของคุณแม่เกี่ยวกับทัศนคติพื้นฐานในการ ‘ต่อรอง’
สมมติว่าบริษัทเสนอให้ปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้น 5% ในการต่อรองเงินเดือน หลังจากนั้นก็ทราบว่าสุดท้ายแล้วบริษัทจะยอมเพิ่มให้ 10% แต่เมื่อเทียบกับเงินเดือนเฉลี่ยในอุตสาหกรรมแล้ว พบว่าเงินเดือนที่ได้รับนั้นใกล้เคียงหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ก็จำเป็นต้องรู้ว่าการต่อรองนั้นเริ่มต้นจากเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรม
กล่าวคือ หากค่าใช้จ่ายเริ่มต้นในการลงทุนนั้นสูงเกินไปกว่าที่คิด ก็ต้องตรวจสอบว่าค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้านที่บริษัทแฟรนไชส์ระบุไว้นั้น เป็นข้อกำหนดโดยนัยที่พวกเขาต้องการให้เราจ่าย เพื่อเป็นการตอบแทนบริการของทีมงานภายในบริษัท หรือก็คือเป็นการตอบสนองต่อเป้าหมายรายได้ของบริษัทแฟรนไชส์นั่นเอง แม้ว่าจะมีเงินทุนเพียงพอแล้ว ก็ไม่ควรยอมรับโดยไม่ไตร่ตรอง ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อกำหนดโดยนัยหรือค่าใช้จ่ายที่กำหนดขึ้นนั้น สมเหตุสมผลในระยะยาวหรือไม่
ค. คุณแม่ได้ขอพบกับเจ้าของร้านที่ขายร้านต่อเนื่องกันหลายครั้งในราคาค่าเช่าที่สูง
เนื่องจากคุณแม่กังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงกว่าที่คาดไว้ จึงได้พบกับเรื่องราวความสำเร็จที่น่าสนใจจากการพูดคุยกับคู่แข่งขัน คุณแม่เล่าว่า มีเจ้าของร้านคนหนึ่งที่เปิดร้านด้วยแบรนด์นี้ และสามารถขายร้านต่อได้ในราคาที่สูงขึ้นหลายเท่าภายในเวลา 2 ปี หลังจากนั้นเขาก็สามารถเปิดร้านใหม่ด้วยแบรนด์เดียวกันอีก 2 ครั้ง และขายร้านต่อได้ในราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน
ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คุณแม่ก็จะสามารถเปลี่ยนเป้าหมายจากเดิมที่คิดแต่เรื่องการอยู่รอดและยอดขายของร้านค้าไปสู่การมองหาโอกาสในการสร้างธุรกิจในแบบของผู้ประกอบการได้
ฉันคิดว่าการพูดคุยกับคนๆ นี้เป็นเรื่องสำคัญ จึงแนะนำให้คุณแม่ลองขอเบอร์โทรศัพท์ของเขาจากผู้บริหารแฟรนไชส์ดู คุณแม่ก็โทรไปหาเขาทันที และเขาเองก็เข้าใจสถานการณ์ของคุณแม่ แต่บอกว่าตอนนี้ค่อนข้างยุ่งและจะติดต่อกลับมาภายหลัง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการติดต่อขอพบปะกับบุคคลที่ต้องการพบปะ ดังนี้
แม้ว่าจะเตรียมการไปอย่างดีแล้ว ก็ยังมีเหตุผลมากมายที่ทำให้ถูกปฏิเสธ นอกจากนี้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลงและมาพบปะกันจริงๆ ก็ยังไม่แน่ว่าเขาจะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับทัศนคติและคำถามของผู้ที่ขอพบปะด้วย
อีกประเด็นหนึ่งคือ หากอีกฝ่ายประสบความสำเร็จในการขายร้านเดิมและกำลังเตรียมเปิดร้านใหม่ ก็ควรไปพบปะเขาที่ร้านใหม่นั้นดีกว่า เพราะผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่คุณแม่จะได้รับจากการประชุมครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงฟังความคิดเห็นของคนที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่คือการได้สัมผัสด้วยตัวเองว่า ‘ฉันก็สามารถพัฒนาร้านค้าของตัวเองให้เติบโตได้เหมือนกับเขา’ นี่แหละคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด วิสัยทัศน์ในการเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้ ถือเป็นทรัพย์สินสำหรับผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจที่จะนำไปสู่ขั้นตอนต่อไปในอนาคต
ความจริงแล้ว สิ่งที่ฉันได้รวบรวมไว้นั้น เป็นเรื่องที่คนทำงานในองค์กรต่างๆ รู้กันดีอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้มาก่อน จนกระทั่งได้เห็นคุณแม่ให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของฉันอย่างจริงจัง ฉันจึงคิดว่าบทความนี้อาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเดียวกัน จึงได้รวบรวมไว้
ความจริงแล้ว ความคิดเห็นที่ฉันให้ไปนั้น เป็นเพียงหนึ่งในความคิดเห็นมากมายที่คุณแม่ได้รับ แต่คุณแม่จะจัดระเบียบความคิดเห็นเหล่านั้นด้วยตัวเอง จากนั้นก็รีบนำไปปฏิบัติและพิสูจน์ด้วยตัวเอง ฉันรู้สึกภาคภูมิใจและขอบคุณในตัวคุณแม่มาก ฉันอยากให้คุณแม่ดำเนินการตามขั้นตอนที่สามารถเข้าใจได้ด้วยตัวเองอย่างที่ทำมาตลอด และสร้างกระบวนการเหล่านั้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในสายตาฉัน คุณแม่เป็นคนเก่งจริงๆ
ความคิดเห็น0